ufabet present : “ดาราศาสตร์” เป็นสาขาหนึ่งด้านวิทยาศาสตร์ที่เล่าเรียนวัตถุฟ้าในหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุขนาดเล็กในระบบสุริยะ (ดาวบริวาร ดาวหาง ดาวนพเคราะห์น้อย) ดาวพระเคราะห์ทั้งยังในรวมทั้งนอกระบบสุริยะพระอาทิตย์ ดาวฤกษ์ กาแล็กซี ไปจนกระทั่งเอกภพซึ่ง “นักดาราศาสตร์” เป็นอาชีพที่เล่าเรียนเกี่ยวกับดาราศาสตร์โดยตรงที่สังคมรู้จักกันดีอยู่แล้ว
นักดาราศาสตร์สมัยก่อนในตอนก่อนจะมีการนำกล้องส่องทางไกลมาใช้เรียนรู้ทางดาราศาสตร์ แล้วก็ตอนที่การดัดแปลงกล้องส่องทางไกลพึ่งจะเริ่มจะแพร่หลาย ทำเป็นเพียงแค่วัดตำแหน่งของวัตถุฟ้าเพื่อทำแผนที่ดาวแล้วก็ปฏิทิน ศึกษาเล่าเรียนกฏเกณฑ์ทางฟิสิกส์บางสิ่ง (ดังเช่น กฏการโคจรของดาวนพเคราะห์) วัดขนาดของโลก และก็บันทึกการปรากฏฟ้าต่างๆอย่างสุริยอุปราคา ราหูอมจันทร์ หรือการปะทุของดาวฤกษ์มวลมากมาย (Supernova)
ภาพวาดแสดงไทวัว บรา (Tycho Brahe) นักดาราศาสตร์ชาวเดนมาร์ก (เพศชายที่นั่งอยู่กึ่งกลางภาพ) กับเครื่องตวงมุม (Quadrant) รัศมีเกือบจะ 2เมตร สร้างติดไว้กับฝาผนังของหอพักดูดาวอูรานีบอร์ (Uraniborg) ให้ราบของเครื่องตวงมุมชี้ในแนวทิศเหนือ-ใต้ ผู้ช่วยของไทวัว (ทางด้านขวาของภาพ)จะดูดาวจุดหมายผ่านตัวเล็งที่เลื่อนไปบนรางโค้งของเครื่องตวงมุมได้ ufabet รวมทั้งช่องที่เจาะไว้บนฝาผนังด้านตรงกันข้าม (ทางด้านซ้ายบนของภาพ) เพื่อวัดมุมเงยของดาวมุมเงยของดาวขณะผ่านเส้นเมอริเดียน(จังหวะที่ดาวมีมุมเงยเหนือเส้นขอบฟ้าสูงที่สุด)สำหรับเจาะจงพิกัดของดาวต่างๆถัดไป
ผู้ช่วยผู้ที่ 2 (ทางขวามือข้างล่างของภาพ) จะอ่านเวลาจากนาฬิกา และก็ผู้ช่วยผู้ที่ 3 (ด้านซ้ายด้านล่างของภาพ) จะบันทึกผลของการวัดมุมเงยของดาววัตถุประสงค์ ภาพวาดนี้อยู่ในแบบเรียนAstronomiae instauratae mechanica ที่ไทวัวเรียบเรียงในปี คริสต์ศักราช1598
หอพักดูดาวอูรานีบอร์ ถูกผลิตขึ้นบนเกาะเวน(Ven/Hven) ในช่องแคบเอ้อเรซุนด์ ระหว่างประเทศสวีเดนกับเดนมาร์ก ในตอน คริสต์ศักราช1576-1580ก่อนใช้งานจวบจนกระทั่งถูกทิ้งร้าง เมื่อไทวัวย้ายออกจากเดนมาร์กใน ปี คริสต์ศักราช1597 แล้วก็ถูกรื้อถอนลงในปี คริสต์ศักราช1601 ข้างหลังไทวัวเสียชีวิต ในขณะนี้พื้นที่ที่เคยเป็นหอพักดูดาวอยู่ในเขตของประเทศสวีเดน
รูปที่ 3 ภาพวาดแสดงฌ็อง ปีการ์ (Jean Picard) นักดาราศาสตร์ชาวประเทศฝรั่งเศสรวมทั้งผู้ช่วย ใช้เครื่องตวงมุม (Quadrant) มาวัดมุมเงยของดาวช่วงเวลาที่ผ่านเส้นเมอริเดียน ufabet เพื่อหาตำแหน่ง 2 ตำแหน่งบนเส้นลองจิจูดเดียวกัน ที่ผู้พิจารณาพบว่าดาวดวงเดียวกันมีมุมเงยขณะผ่านเส้นเมอริเดียนแตกต่าง 1 องศา ซึ่งแปลว่าตำแหน่งคู่ดังที่ได้กล่าวมาแล้วมีพิกัดละติจูดแตกต่างกัน 1 องศา แล้วต่อจากนั้นปีการ์ได้นำระยะห่างระหว่างตำแหน่งทั้งคู่ มาหาขนาดของโลกในปี คริสต์ศักราช1669-1670 ที่มาของภาพ: Encyclopædia Britannica, Inc.
รูปที่ 4 ชิบุกาวะ ฮารุมิ นักดาราศาสตร์หลวง (ตำแหน่ง“เท็มมงกาตะ” (天文方)) คนแรกในรัฐบาลโชกุนโทกุงาวะ มีชีวิตอยู่ในตอนปี คริสต์ศักราช1639-1715 ขณะกำลังวาดแผนที่ดาว ซึ่งนักดาราศาสตร์หลวงของประเทศญี่ปุ่นในยุคเอโดะ จะมีบทบาททำปฏิทิน แผนที่ดาว คำนวณการเกิดสุริยคราส-จันทรคราส รวมทั้งการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์เพื่อปรับแก้ปฏิทินให้แม่นขึ้น ภาพจากภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Tenchi: The Samurai Astronomer
ภายหลังจากกล้องส่องทางไกลได้ถูกเริ่มปรับใช้สำหรับการสังเกตการณ์เพื่อทำการศึกษาทางดาราศาสตร์ นักดาราศาสตร์ก็ได้เริ่มปรับปรุงกล้องส่องทางไกลแล้วก็เครื่องมืออื่นๆให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น มีแบบนานาประการมากยิ่งขึ้น ทำให้รูปแบบการทำงานของนักดาราศาสตร์ขยายขอบเขตมากยิ่งขึ้น (จากเดิมที่วัดตำแหน่งพิกัดดาว ทำแผนที่ดาวรวมทั้งปฏิทินบันทึกการเกิดฟ้า) จนกระทั่งสามารถกระทำสังเกตการณ์วัตถุฟ้าผ่านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในตอนความยาวคลื่นอื่นๆนอกเหนือจากแสงสว่างที่ตามองมองเห็น ยกตัวอย่างเช่น คลื่นวิทยุ หรือรังสีต่างๆรวมทั้งสำเร็จการสังเกตการณ์ที่ (กำลังขยายและก็ประสิทธิภาพของรูปถ่ายดียิ่งขึ้น)
ตอนที่สมัยอวกาศได้เริ่มขึ้น ufabet ด้วยการส่งดาวเทียมดวงแรกขึ้นสู่อวกาศเสร็จในปี คริสต์ศักราช1957 นักดาราศาสตร์ที่เรียนวัตถุต่างๆในระบบสุริยะได้อาศัยยานอวกาศหุ่นยนต์ช่วยเรียนระบบสุริยะเยอะขึ้นเรื่อยๆนอกเหนือจากนั้น นักดาราศาสตร์ได้เริ่มนำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้สำหรับในการศึกษาค้นคว้าทางดาราศาสตร์ จนถึงคอมพิวเตอร์ถือได้ว่าสิ่งที่จำเป็นต่อรูปแบบการทำงานของนักดาราศาสตร์ในขณะนี้ไปแล้ว
รูปที่ 5 ภาพวาดแสดงกาลิเลโอ กาลิเลอี (Galileo Galilei) นักดาราศาสตร์ชาวอิตาลี ผู้เริ่มปรับใช้กล้องส่องทางไกลกับการเรียนรู้ทางดาราศาสตร์ ในรูปภาพวาดนี้จินตนาการว่ากาลิเลโอกำลังแสดงผลลัพธ์การสังเกตการณ์จากกล้องส่องทางไกล ที่พบว่าผิวพระจันทร์นั้นตะปุ่มตะป่ำเต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาต แล้วก็ดาวพฤหัสบดีมีดาวบริวารโคจรอยู่ 4 ดวงแก่นักบวชโรมันคาทอลิก Credit ภาพ: Jean-Leon Huens, National Geographic
รูปที่ 6 แผนภาพแสดงตัวอย่างกล้องส่องทางไกลตั้งแต่อดีตมาจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ซึ่งมีผลต่อแนวทางการทำงานของนักดาราศาสตร์ที่สังเกตการณ์ผ่านกล้องส่องทางไกลในแต่ละยุค (เรียงจากซ้ายมาขวา)
- กล้องส่องทางไกลแบบหักเหแสงสว่าง ที่วางแบบให้มีลักษณะ “ไม่มีลำกล้องถ่ายรูป” โดยคริสตียานเฮยเคินส์ (Christiaan Huygens) นักดาราศาสตร์ชาวฮอลล์แลนด์ ในปี คริสต์ศักราช1684
- กล้องส่องทางไกลขนาดใหญ่ภาคพื้นดิน ที่ถูกปรับปรุงกลไกที่ฐานกล้องถ่ายภาพให้ตามการขึ้นตกของดาวเจริญขึ้น ในตอนคริสตศตวรรษที่ 19-20
- วงล้อฟิลเตอร์ (Filter wheel) มีแผ่นกรองแสงสว่าง(filter) สีต่างๆจัดตั้งอยู่ระหว่างกล้องส่องทางไกลกับกล้องถ่ายสำหรับภาพ แผ่นกรองแสงสีต่างๆดังที่กล่าวมาแล้วเริ่มถูกเอามาดัดแปลงกับการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ในตอนต้นคริสตศตวรรษที่ 20 เพื่อมองเห็นเนื้อหาต่างๆบนผิวพระจันทร์ ดาวนพเคราะห์และก็ดาวหางก้าวหน้าขึ้น รวมถึงใช้สำหรับในการวัดค่าดรรชนีสีของดาวฤกษ์ชนิดต่างๆ
- กล้องส่องทางไกลวิทยุ (Radio telescope) เป็นกล้องส่องทางไกลที่ใช้สังเกตการณ์วัตถุฟ้า โดยรับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในตอนคลื่นวิทยุ แทนที่จะเป็นแสงสว่างในตอนที่ตามองมองเห็นแบบกล้องส่องทางไกลทั่วๆไป นักดาราศาสตร์เริ่มใช้งานกล้องส่องทางไกลวิทยุในตอนต้นคริสตศตวรรษที่ 20
- กล้องส่องทางไกลอวกาศฮับเบิล (HST) เป็นกล้องส่องทางไกลตัวสำคัญที่ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศ เพื่อลดผลพวงจากบรรยากาศของโลกที่ทำให้ภาพดาวไม่ชัดเจน ufabet เริ่มใช้งานในปี คริสต์ศักราช1990 ซึ่งกล้องส่องทางไกลที่อยู่ในอวกาศสามารถรับรังสีต่างๆที่ถูกบรรยากาศโลกดูดกระทั่งมาไม่ถึงผืนโลก อย่างเช่น รังสีแกมมา รังสีเอกซ์ รังสี UV หรือรังสีอินฟราเรด กระทั่งมีการส่งกล้องส่องทางไกลที่สังเกตการณ์ผ่านรังสีกลุ่มนี้อีกหลายตัวขึ้นสู่อวกาศ
- นักดาราศาสตร์ในตอนนี้เริ่มมีแผนการสร้างหอพักดูดาวภาคพื้นดินที่มีกล้องส่องทางไกลขนาดใหญ่มากมาย ได้แก่ กล้องส่องทางไกล ELT ที่มีขนาดหน้ากล้องถ่ายรูป 39.3 เมตรที่ประเทศชิลี หรือกล้องส่องทางไกลขนาดหน้ากล้องถ่ายภาพ 30 เมตร(TMT) ที่ฮาวาย ซึ่งการผลิตกล้องส่องทางไกลขนาดใหญ่มากมายกลุ่มนี้กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการพัฒนาเทคโนโลยีทางวิศวกรรมรวมทั้งทัศนูปกรณ์และก็งบประมาณหลายแผนการเกินกว่าที่งบประมาณด้านดาราศาสตร์ของประเทศเดียวจะพอเพียง ทำให้เกิดการร่วมลงทุนรวมทั้งความร่วมแรงร่วมใจระหว่างชาติ
รูปที่ 7 ภาพวาดจินตนาการแสดงยานกัสซีนี (Cassini)ของสหรัฐอเมริกา ขณะปลดปล่อยยานเฮยเคินส์ (Huygens) ของหน่วยงานอวกาศยุโรป (ESA) ไปลงหยุดบนพระจันทร์ไททันของดาวเสาร์ เมื่อปี คริสต์ศักราช2004
ยานกัสซีนี-เฮยเคินส์เป็นเยี่ยมในยานตรวจระบบสุริยะซึ่งมีความหมายต่อการศึกษาค้นคว้าวิจัยของนักดาราศาสตร์ ภายหลังที่สมัยอวกาศได้เริ่มขึ้น จากเดิมที่นักดาราศาสตร์เล่าเรียนในแง่ทฤษฎี หรือสังเกตการณ์วัตถุในระบบสุริยะผ่านกล้องส่องทางไกลภาคพื้นดินก็มียานกลุ่มนี้ช่วยเก็บข้อมูลเกี่ยวกับดาวพระเคราะห์ดาวนพเคราะห์แคระแกร็น แล้วก็วัตถุขนาดเล็กอื่นๆดังเช่น การถ่ายรูปรวมทั้งทำแผนที่ การศึกษาเล่าเรียนบรรยากาศ-สนามไฟฟ้า-ระบบวงแหวนของดาวพระเคราะห์การวิเคราะห์แบบอย่างดินแล้วก็หินจากพระจันทร์แล้วก็ดาวอังคาร ufabet
Comments