top of page
Search
Writer's pictureALPH4BET

SPACEX SENDS NASA TESS TO ORBIT


UFABET : ดาวนพเคราะห์นอกระบบสุริยะหรือที่เรียกกันว่า Exo-Planet นั้น ปัจจุบันนี้ได้มีการศึกษาและทำการค้นพบแล้วกว่า 3,000 ดวง ซึ่งผลงานนี้ก็จะต้องชูให้ความรู้ความเข้าใจของกลุ่ม Kepler กับกล้องส่องทางไกลอวกาศ Kepler สถานที่สำหรับทำงานมาตั้งแต่ปี 2009และก็กำลังจะหมดอายุภารกิจในอีกไม่นาน โดย NASAได้มีการดีไซน์ยานอวกาศลำใหม่ชื่อว่ายาน TESS ย่อมาจาก Transiting Exoplanet Survey Satellite ที่จะปฏิบัติภารกิจสืบต่อภารกิจของยาน Kepler


ย้อนกลับไปในปี 2013 ภารกิจ TESS ได้ผ่านการยินยอมจาก NASA ภายหลังที่มันเคยถูกเสนอก่อนหน้าที่ผ่านมาแต่ว่าข้อเสนอแนะก็ได้ถูกตัดตกไปในปี2006 ซึ่งขณะนั้นมีเพียงแค่บริษัทบางบริษัทที่มอบทุนแค่นั้น (Google ก็ยอดเยี่ยมในนั้นด้วย) ภายหลังทำการวิจัยอย่างถี่ถ้วนแล้ว NASA ก็อนุมัติการผลิตยานTESS ในปี 2015 ภายหลังที่ NASA ได้เลือกให้SpaceX เป็นผู้กระทำการปลดปล่อยยานลำนี้


มีเรื่องมีราวที่น่าดึงดูดก็คือตัวยาน TESS มีมูลค่า 75ล้านเหรียญ ตอนที่ SpaceX คิดค่าปลดปล่อยที่ 87ล้านเหรียญ ทำให้ค่าปลดปล่อยยานสูงยิ่งกว่าค่าของตัวยานเองเสียอีก


 

การปล่อยยาน TESS

การปลดปล่อยยาน TESS นี้เป็นการปลดปล่อยยานอวกาศให้กับ NASA เป็นครั้งที่ 3 ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา SpaceX เคยได้รับมอบหมายให้ปลดปล่อยยาน DSCOVR ยานตรวจสอบดวงตะวัน แล้วก็ยานJASON-3 ยานตรวจสอบภาพพื้นมหาสมุทร (ถ้าหากไม่นับการส่งยาน Dragon ขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาประเทศให้กับ NASA)


การปลดปล่อยมีขึ้นที่ฐานปลดปล่อย LC-40ในแหลมเคอเนอเวอรัล ฐานปลดปล่อยประจำของSpaceX จรวดที่ใช้ยังคงเป็นจรวด Falcon 9 ได้แก่เดิม Falcon 9 ที่ใช้เป็น Falcon 9 เลขลำดับ B1045ซึ่งเป็นจรวดลำใหม่แกะกล่องยังไม่เคยผ่านการใช้แรงงานมาก่อน แม้กระนั้นก็ยังเป็น Falcon 9 รุ่นก่อนในรุ่น Block 4 ที่ SpaceX กำลังจะแทนที่ด้วยแบบใหม่Block 5 ในอีก 1-2 ภารกิจด้านหน้า ทำให้นี่จะเป็นภารกิจในที่สุดที่ใช้งาน Falcon 9 Block 4 ลำใหม่


ด้วยเหตุว่ายาน TESS มีขนาดเล็กมากมายแล้วก็หนักเพียงแต่ 300 โล ทำให้เหลือช่องว่างใน Payload Fairing ค่อนข้างจะมาก จนกระทั่งกำเนิดเป็นรูปที่ราวกับภารกิจนี้จะมองไม่คุ้มอย่างไรก็ไม่เคยรู้ (ฮา)

สำหรับสิ่งที่พิเศษในภารกิจนี้ซึ่งก็คือ SpaceX จะมีการทดลองเก็บกู้เกือบจะทุกองค์ประกอบของจรวดเช่น

  • First Stage จะกลับมาลงหยุดบน DroneShip ดังเช่นว่าเดิม

  • Second Stage จะมีการทดลองเก็บกู้ด้วยการใช้บอลลูน

  • Payload Fairing ทดลองเก็บกู้ด้วยการใช้ร่มชูชีพดังเช่นเดิม (แต่ว่าจะลงหยุดบนน้ำแทน)

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา SpaceX มีแผนสำหรับการจะปลดปล่อยยาน TESS ในวันที่ 17 เดือนเมษายน แต่ว่าเพราะมีการวิเคราะห์ของทางฝั่ง GNC หรือ Guidance Navigation and Control ก็เลยมีการเลื่อนการปลดปล่อยมาในวันที่ 19 เดือนเมษายน


จรวด Falcon 9 พุ่งขึ้นจากฐานปลดปล่อยในเวลา ห้านาฬิกาห้าสิบตามเวลาของไทย ภายหลังที่พุ่งขึ้น 2นาทีครึ่ง จรวดท่อนแรกก็ปลีกตัวออก ก่อนจะกลับมาลงหยุดบน Droneship ชื่อ Of Course I Still Love You ตามเดิม โดยการลงหยุดก็เป็นไปอย่างงดงามดังเช่นว่าทุกคราว ภายหลังที่จรวดลงหยุด SpaceX ก็ได้ใช้หุ่นยนต์ที่ประจำอยู่บนเรือมากระทำล็อก Falcon 9กับตัวเรือไว้ไม่ให้ล้ม ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาควรจะมีการส่งคณะทำงานขึ้นไปล็อก Falcon 9 ด้วยโซ่ แม้กระนั้นก็มีโอกาสเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ Falcon 9 ล้มใส่กลุ่มเก็บกู้ SpaceX ก็เลยนำหุ่นยนต์มาใช้แก้ไขปัญหานี้


จรวดท่อนลำดับที่สองจะยังคงทำงานต่อตรงเวลา 48นาทีก่อนจะทำปลดปล่อยยาน TESS ออก โดยสำหรับวิถีโคจรที่ยาน TESS จะไปอยู่ก็คือ High-Earth Eliptical Orbit ซึ่งเป็นเส้นทางโคจรแบบวงรี (มีจุดที่ห่างออกไปจากโลก รวมทั้งเข้ามาใกล้โลก) โดยจะชี้แจงอย่างระมัดระวังในประเด็นถัดไป


โดยตัวยาน TESS นั้นจะแยกทางกับตัว Second Stage รวมทั้งเดินทางไปยังจุดนี้เองด้วยเชื้อเพลิงบนตัวยาน (ใข้การ Burn บางครั้งก็อาจจะสูงถึง 11 ครั้ง)ทำให้ Second Stage ของ Falcon 9 ไต่ขึ้นไปที่เส้นทางโคจรไม่สูงมากมาย และก็ SpaceX มีแผนสำหรับการที่จะทำ Second Stage ของจรวดกลับมายังโลกด้วยการใช้บอบลูน โดยภายหลังจากการ Burnรอบลำดับที่สองเพื่อกระทำการปลดปล่อยยาน TESSให้อยู่ใน Hight Earth Transfer Orbit นั้น UFABET ภายหลังที่กระทำการปลดปล่อยยาน TESS แล้ว Second Stageจะกระทำการ Burn อีกทีเพื่อสามารถกลับไปสู่ชั้นบรรยากาศได้


ส่วนตัวยาน TESS นั้น จะใช้ Gravity Assist จากพระจันทร์​สำหรับการเหวี่ยงตนเองขึ้นไปทำมุมInclination โดยประมาณ 40 องศา


 

สรุป Timeline Event ของการส่งยาน TESS

  • จรวด Falcon 9 พายาน TESS ขึ้น

  • First Stage รวมทั้ง Second Stage แยกตัว ข้างหลังปล่อยไป 2 นาที 30 วินาที

  • Second Stage กระทำ Burn ต่อ 6 นาทีหลังจากนั้นปิดเครื่องยนต์ เดี๋ยวนี้ยาน TESS อยู่ที่ Low Earth Parking Orbit แล้วก็รอเวลา

  • เมื่อถึงจุดที่กำหนดไว้ Second Stage จุดเครื่องอีกรอบ ในนาทีที่ 43 ข้างหลังการปลดปล่อย เพื่อกระทำการ Burn ตรงเวลา 1 นาที

  • ยาน TESS ถูกปลดปล่อยออกมาจาก Second Stageรวมทั้งเดินทางไปที่เส้นทางโคจรระดับความสูง 600กิโล

  • แล้วเชื้อเพลิงบนยานจะกระทำการ Burn ทำให้Apogee ของยาน (จุดที่สูงที่สุดของเส้นทางโคจร) สูงมากขึ้นไปถึง 250,000 กิโล

  • หลังจากนั้นจะทำ Burn แบบนี้ไปเรื่อยเมื่อยานกลับมาอยู่ที่ความสูง 600 กิโล ในที่สุดแล้ว Apogee จะไต่ไปถึง 400,000 กม.

  • ยานจะได้รับผลพวงจากแรงโน้มถ่วงของพระจันทร์เหวี่ยงยานให้ไปอยู่ในวิถีโคจรที่ดีไซน์ไว้ รวมทั้งจะมีการทำ Burn อีก 2-3 ครั้งเพื่อปรับให้ยานมาอยู่ในวิถีโคจรที่ระบุ

  • ในที่สุด ยาน TESS ทำมุม 40 องศากับราบการโคจรของพระจันทร์ มีจุดที่โคจรเข้ามาใกล้โลกเยอะที่สุดที่(Perigee) 108,000 กิโล รวมทั้งห่างไปจากโลกที่สุดที่ (Apogee) 375,000 กม.



 

วงโคจรพิเศษที่ไม่เคยใช้มาก่อน

สำหรับวิถีโคจรที่ TESS ใช้นั้นเป็นวิถีโคจรที่ถูกวางแบบมาเป็นพิเศษ ซึ่งนอกเหนือจากการปลดปล่อยที่ค่อนข้างจะสลับซับซ้อนแล้ว (ใช้แรงโน้มถ่วงของพระจันทร์สำหรับในการเหวี่ยงตนเองขึ้นไป) ยังมีการดีไซน์ที่มีแนวความคิดสำคัญเป็น เส้นทางโคจรของยานTESS ต้องเสถียรโดยมิได้รับอิทธิพลจากแรงโน้มถ่วงของพระจันทร์มาเปลี่ยนทิศทาง UFABET (เพราะว่าถ้าหากวางยาน TESS ในแนวราบเดียวกับพระจันทร์ เมื่อใดก็ตามมันโคจรใกล้พระจันทร์มันจะถูกดึงโดยแรงโน้มถ่วงและก็วิถีโคจรจะไม่เสถียร)


NASA ขจัดปัญหานี้ด้วยการออกแบบเส้นทางโคจรของTESS ให้ทำมุม 40 องศากับราบโคจรของพระจันทร์ มีจุดที่โคจรเข้ามาใกล้โลกเยอะที่สุดที่ 108,000 กิโลแล้วก็ห่างไปจากโลกที่สุดที่ 375,000 กม. ใช้เวลาสำหรับการหมุนรอบโลกทั้งผอง 13.7 วัน ซึ่งเป็นครึ่งนึงของเวลาการโคจรของพระจันทร์ ทำให้มันมิได้รับอิทธิพลจากเส้นทางโคจรของพระจันทร์


นอกจากนั้นในตอนที่มันใกล้โลก ยาน TESS จะใช้โอกาสนี้สำหรับเพื่อการหันเสาสัญญาณรวมทั้งส่งข้อมูลที่มันกระทำการตรวจสอบได้กลับมายังโลกทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้เสาสัญญาณขนาดใหญ่สำหรับการรับสัญญาณ

เหตุผลที่ยาน TESS ใช้วิถีโคจรที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าภารกิจ TESS นั้นเป็นภารกิจที่อยากได้ออมงบประมาณ ซึ่งจุดเด่นของเส้นทางโคจรแบบงี้ก็คือ

  • ไม่อยู่ใกล้โลกจนถึงเกินความจำเป็น ทำให้สามารถแลเห็นได้รอบทิศทาง ไม่โดนโลกบัง

  • ไม่อยู่ไกลโลกจนถึงเหลือเกิน ราวกับภารกิจ Keplerที่ไปหมุนรอบพระอาทิตย์ ทำให้จำต้องใช้พลังงานมากมายสำหรับเพื่อการติดต่อสื่อสารกับโลก แล้วก็จะต้องใช้จานรับสัญญาณขนาดใหญ่เป็น Deep Space Network

  • ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าสำหรับในการส่ง ซึ่งยาน Keplerนั้นถูกส่งโดยจรวด Delta II ซึ่งมีค่าส่งแพงกว่าFalcon 9ช

พวกเราเรียกเส้นทางโคจรอย่างงี้ว่า P/2 Orbit (2:1 lunar resonant orbit) ด้วยวิธีการ Orbital resonance ซึ่งไม่เคยมีการใช้มาก่อนโดยยานอวกาศลำใดในประวัติศาสตร์ เมื่อก่อนหน้านี้เคยมียานที่ใช้เส้นทางโคจรแนวๆเดียวกัน เป็นวิถีโคจรP/3 Orbit เป็นยาน Interstellar Boundary Explorer หรือ IBEX ที่ใช้วิธีการ Resonance ด้วยเหมือนกัน (ซึ่งทำให้นักฟิสิกส์เส้นทางโคจรเห็นว่าวิถีโคจรอย่างงี้สามารถทำเป็นจริง)

ซึ่งถ้าพวกเรามองดูวิถีโคจรนี้ใน Frame อื่น (ไม่รู้จักจะเรียกว่าอะไรดี) วิถีโคจรที่ออกมานั้นจะมองเห็นเป็น resonance อย่างแจ่มแจ้ง


 

ภารกิจของยาน TESS

นักดาราศาสตร์ประเมินไว้ว่ายาน TESS จะศึกษาค้นพบดาวพระเคราะห์นอกระบบสุริยะหรือ Exo-Planet กว่า1,000 ดวง รวมทั้งเพิ่มเข้ามาในฐานข้อมูลของพวกเราที่กล้องส่องทางไกลอวกาศ Kepler ได้สร้างไว้ให้เปลี่ยนเป็นฐานข้อมูล Exo-Planet ที่มากที่สุดกว่า3,000 ดวง UFABET เคล็ดลับที่ยาน TESS ใช้นั้นก็จะเช่นเดียวกับการตรวจค้นดาวนพเคราะห์นอกระบบสุริยะทั่วๆไปเป็นการใช้การ Transit ชิงดาวแม่ของมัน แล้วกระทำการพินิจพิจารณาแสงสว่างที่หยีลงไป หรือสเป็คตรัมของแสงสว่างก่อนหน้านี้ได้ รวมทั้งในตอนที่เกิดขึ้นสำหรับเพื่อการมองว่าดาวพระเคราะห์ดวงนั้นมีลักษณะคืออะไร เส้นทางโคจรแบบไหน รวมทั้งได้โอกาสที่จะมีสิ่งมีชีวิตไหม


ปัจจุบันได้มีการทำเทคโนโลยี Machine Learningมาใช้ และก็ที่ผ่านมา NASA ก็ได้กระทำการ ศึกษาค้นพบดาวนพเคราะห์นอกระบบสุริยะด้วย Machine Learning มาแล้ว เดิมนี้แล้วการศึกษาและทำการค้นพบทางดาราศาสตร์ต้องอาศัยการสังเกตการโดยมนุษย์แล้วก็คอมพิวเตอร์ที่ยังคงใช้การเขียนโปรแกรมแบบตามเคย แต่ว่าในคราวนี้ด้วยการสอนคอมพิวเตอร์แบบ Machine Learning ทำให้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายของอีกทั้งฝั่งดาราศาสตร์ แล้วก็วิทยาการคอมพิวเตอร์

ภารกิจหลักของยาน TESS ที่จะทำก็คือ

  • กระทำการดูไปยังดาวฤกษ์ใกล้ๆกว่า 200,000 ดวงเพื่อค้นหาดาวนพเคราะห์ที่หมุนรอบมัน

  • เน้นย้ำการค้นหาดาวพระเคราะห์เหมือนโลกเป็นหลัก

  • มีมุมมองกว้างกว่ายาน Kepler ถึง 400 เท่า

ชี้แจงกล้วยๆก็คือในช่วงเวลาที่ยาน Kepler มีมุมที่แคบแต่ว่าลึก ยาน TESS จะมีมุมมองที่ตื้นกว่าแม้กระนั้นสามารถค้นหาได้ 360 องศาในทุกมุมของฟ้าดังยาน Kepler ใช้การค้นหาในแบบไฟฉาย แต่ว่ายาน TESS ใช้การค้นหาแบบหลอดไฟฟ้า UFABET เป็นส่องรอบๆรอบกายเองในทุกมุมนั่นเอง ซึ่งก็ทำให้ช่องทางที่พวกเราจะศึกษาค้นพบดาวนพเคราะห์เหมือนโลกที่ใกล้ๆกับระบบสุริยะของพวกเรามีมากเพิ่มขึ้น


ดวงตาสำคัญของยาน TESS นี้ก็คือกล้องถ่ายรูปเซนเซอร์แบบ CCD ทั่วๆไป ความละเอียด 16.8 ล้านพิกเซล ค่า f/1.4 สร้างโดย MIT โดยมันจะดำเนินการร่วมกับระบบคอมพิวเตอร์บนยาน ที่ใช้ซีพียู Freescale P2010 e500 กับแรม DDR2 1 GB แล้วก็SSD ขนาด 4 GB ด้วยเหตุผลด้านพลังงาน (ยานTESS ถูกดีไซน์มาให้ใช้พลังงานน้อยมาก)


ยาน TESS ได้กระทำแบ่งฟ้าออกเป็น 26 Sectorทางซีฟ้าเหนือ 13 Sector แล้วก็ซีฟ้าใต้ 13 Sectorโดยยาน TESS มีภารกิจการสำรวจนาน 2 ปี ทำให้มีเวลาตรวจทั้งคู่ด้านฟ้า 1 ปีแค่นั้น ในแต่ละ Sector จะถูกตรวจโดยใช้เวลา 27.4 วัน (พอๆกับการหมุนรอบโลก 2 ครั้ง) ภายหลังที่ตรวจเสร็จแล้วยานจะปรับหมุนเองเพื่อส่องกล้องไปตรวจ Sector ต่อไป


นอกเหนือจากนั้นลักษณะการทำงานของยาน TESSจะปูทางไปสู่การสำรวจของกล้องถ่ายรูป James Webb Space Telescope ในอนาคต UFABET ซึ่งกล้องถ่ายรูป JWSTนั้นจะมีกล้องถ่ายรูปมุมแคบทำให้ให้สามารถพินิจจุดใดจุดหนึ่งของฟ้าได้โดยตลอด TESS ก็เลยดีไซน์แต่ละ Sector ให้มีการทับทับกันในส่วนฟ้าเหนือ (จุดที่ JWST จะกระทำตรวจโดยตลอด) เพื่อเก็บข้อมูลรอบๆนั้นให้ได้มากที่สุดก่อนจะถูกถ่ายรูปด้วยกล้องถ่ายรูปมุมแคบแต่ว่าลึกของ JWST

 

1 view0 comments

Comments


bottom of page