หากพวกเราเอ่ยถึง “การฆ่าตัวตาย” ในวัฒนธรรมประเทศญี่ปุ่น ก็คงระลึกถึงคำชินหูอย่างคำว่า “ฮาราคินรี” หรือที่ถูก จะออกเสียงว่า “ฮะระคิริ” ซึ่งมิได้ซึ่งก็คือการฆ่าตัวตายในแบบที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ธรรมดา แม้กระนั้นนับว่าเป็นกิจกรรมซึ่งมีขั้นมีตอน มีความประสงค์อันแรงกล้า จะต้องปฏิบัติอย่างมีสติสัมปชัญญะ จัดว่าเป็นธุระที่จำต้องใช้จิตชั้นสูง อันเป็นเป็นที่ยอมรับ แล้วก็มีคุณค่าในสังคมประเทศญี่ปุ่นโบราณ
“ฮะระคิริ” และ “เซ็ปปุกุ”
สหายๆบางทีก็อาจจะสงสัยว่าการฆ่าตัวตายตามวิถีเริ่มแรกนี้ มีคำที่ใช้เรียกกันอยู่ 2 คำ นอกจากคำว่า ฮะระคิริ แล้ว ยังมีคำว่า “เซ็ปปุกุ” อีกด้วย…แล้วมันแตกต่างเช่นไร??
ความน่าดึงดูดใจอีกประการมีอยู่ว่า ทั้งคู่คำนี้ ใช้คันจิ 2 ตัว ประกอบกันเข้ามาเป็นคำที่บอกคำจำกัดความแบบเดียวกัน แม้กระนั้นออกเสียงแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
ฮะระคิริ สะกดด้วยคันจิ “ฮะระ” ที่มีความหมายว่า ท้อง (腹) แล้วก็ “คิริ” ที่แสดงว่า ตัด (切)
ส่วน เซ็ปปุกุ ก็เพียงสลับตำแหน่งคันจิกัน เปลี่ยนเป็น “เซ็ป” (切) และก็“ปุกุ” (腹) เรียบง่ายแบบนี้เองขอรับ
วิถีแห่งชายชาตรี ผู้มองชีวิตเป็นสิ่งบางเบา
การฆ่าตัวตายแบบเริ่มแรกนี้ ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยชนชั้นซามุไร (สังคมประเทศญี่ปุ่นโบราณ ประกอบไปด้วย 4 ชนชั้น ตัวอย่างเช่น ซามุไร ชาวไร่ชาวนา ช่างฝีมือ และก็พ่อค้า หรือ ชิโนวัวโช「士農工商」) นับว่าเป็นวิถีของชาติทหาร ที่มีเหตุมีผลสำหรับในการปฏิบัติธุระนี้นาๆประการในหลายทาง
ในทางหนึ่งใช้สำหรับในการประหารตัวเองชดเชยต่อความประพฤติข้อผิดพลาดไม่เป็นเยี่ยงอย่าง แต่ว่าในฐานะซามุไรยังเป็นที่ยอมรับว่าเขาผู้นั้นต้องตายอย่างสมเกียรติ ในอีกแง่ก็ใช้สำหรับในการปลิดชีพตัวเองซึ่งเป็นเกียรติกว่าการเช็ดกฆ่าด้วยคมกระบี่ของซามุไรผู้เป็นอริศัตรู และก็ในต้นแบบที่เป็นที่ชื่นชอบที่สุด เป็นการปลิดชีพตัวเองด้วยเหตุว่าไม่บางทีอาจรักษาไว้ซึ่งชีวิตนายจ้างของตัวเองได้ ก็เลยไม่มีเหตุอันใดที่ซามุไรไม่มีนาย จะมีชีวิตอันไม่มีคุณค่าอยู่ได้อีกต่อไป
ขั้นตอนการ “ตัดท้อง” ที่เรียบง่าย แต่ซับซ้อน
ซามุไรทุกๆคน จะพกดาบสั้นประจำตัวไว้เสมอ ราวกับว่าพวกเขาใส่ใจทราบซึ่งความบางรวมทั้งค่อยของชีวิต ตระเตรียมจิตใจไว้พร้อมในตลอดเวลาที่บางทีอาจจำต้องละไปซึ่งชีวิต ดุจใบไม้ที่พร้อมจะหลุดออกมาจากขั้วกิ่ง หลุดล่วงลงสู่พื้นอย่างไร้เสียง…เรียบง่ายรวมทั้งแผ่วเบาถึงปานนั้น
ถ้าเกิดวิธีการทำเซ็ปปุกุคราวนั้น เป็นการทำอย่างเป็นทางการ มีพิธีการรีตรอง ซามุไรผู้นั้นเป็นผู้มีเกียรติ เขาจำเป็นต้องดื่มสาเกถึงสองแก้ว แก้วละสองจิบ จิบแรกหมายความว่าความอยากได้ และก็อีกสามจิบหมายคือความลังเลใจ รวมเป็นสี่จิบ หรือ “ชิ”「四、死」ที่มีความหมายว่า สี่ หรือ ความตาย
ต่อจากนั้นก็เลยเขียนบทกวีที่ความตายขึ้นในวาระสุดท้าย ด้วยกิริยาท่าทางงามยิ่ง มีความชอบธรรมชาติ เหมือนหนึ่งว่าเขากำลังร่ายรำอย่างสงบเงียบ ไม่กลัวต่อความตายข้างหน้า
จบแล้วจึงมาถึงตอนเวลาสำคัญ หรือถ้าเกิดเป็นการทำโดยธรรมดาก็เริ่มที่ขั้นนี้…ใส่แขนทั้งคู่เข้าไปในเสื้อ แล้วจึงแทงแขนออกมาทางอกเพื่อแหวกเสื้อออกให้ถึงเอว ดาบสั้นนั้นจะห่อไว้ด้วยกระดาษขาว เพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้ใบมีดบาดมือ หรือหลุดมือขณะกำลังถือเอาไว้ด้วยจิตใจแน่แน่ว หันปลายมีดไปสู่ท้อง โดยให้คมมีดหันไปด้านขวา ถึงมีดไปสู่ท้องจากทางซ้าย รวมทั้งลากคมมีดให้ยาวมายังด้านขวา ส่วนมากชอบจบที่จุดนี้ แม้กระนั้นแม้ว่าชาญชัยและก็ว่องพอเพียง ก็เลยจะชูมีดขึ้นเพื่อตัดท้องในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งจำต้องแน่แน่วรวมทั้งไวกว่ากระบี่ของไคชุขานิน ผู้เผ้าคอยอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง เพื่อทำการที่เรียกว่า ไคชะระอุ ตัดหัวของผู้ที่ทำที่เริ่มไม่แน่วแน่รวมทั้งลังเลให้ขาดในกระบี่เดียว
ลานประกอบกิจฮะระคิริ (Ha-ra-ki-ri-Ma-ru)
ตอนแรกก่อนที่จะแนวทางการทำฮะระคิริจะปรับปรุงมาถึงแบบที่แจ่มแจ้งมีพิธีการรีตรองอย่างในยุคเอโดะนั้น ความร้ายแรงแล้วก็สลับซับซ้อนของการลงมือมีขั้นตอนที่มากกว่าที่เป็นอยู่ แม้กระนั้นเมื่อนับว่าเป็นธุระที่สังคมให้ท่านค่าแล้วก็เห็นด้วยโดยทั่ว ก็เลยปรากฏมีการสร้างลานประกอบธุระฮะระคิริอย่างเป็นธุระลักษณะ อย่างในวังฮิเมจิที่เรียกว่า ฮะระคิริมะรุ
การฆ่าตัวตายด้วยกระบวนการทำฮะระคิริหรือเซ็ปปุกุในหลายสาเหตุนับว่าเป็นเรื่องสำคัญเป็นไปตามสถานะทางด้านสังคมของซามุไรผู้นั้น ทรงเกียรติมากมาย ย่อมได้รับความพอใจมากมาย ต้องมีพิธีการยิ่งใหญ่ มีพยานร่วมนานัป
ไม่เฉพาะแต่คนประเทศญี่ปุ่นแค่นั้น ในสมัยที่คนประเทศอื่นเริ่มเข้ามาในสังคมประเทศญี่ปุ่นอีกทีภายหลังเปิดประเทศช่วงปลายเอโดะ ปรากฎมีบันทึกในปี 1868 Lord Redesdale ราชทูตผู้ดีอังกฤษ แล้วก็ผู้ติดตามอีก 6 ท่าน ได้รับชักชวนให้ร่วมในพิธีการเซ็ปปุกุอย่างเป็นทางการของซามุไรจากเมืองบิเซ็นวัย 32 ปี โทษฐานที่เขาได้สั่งให้ซามุไรผู้ติดตาม เผาทำลายที่พักที่อาศัยของคนต่างชาติในเมืองเฮียวโกะ (โกเบ)
ตอนหลังพิธีการสิ้นสุดลง Lord Redesdale ได้บันทึกประสบการณ์อันสุดแสนจะเสียใจในความอาจหาญของการยกเลิกไปซึ่งชีวิต แต่ว่าก็ตรึงตราด้วยเพราะว่าชื่นชอบที่ได้เห็นด้วยตาของตัวเองนั้นเอาไว้ในหนังสือของเขาที่มีชื่อว่า “Tales of Old Japan” นับว่าเป็นหนังสือที่มีคุณค่า UFABET เป็นบันทึกโดยคนต่างประเทศชิ้นแรกที่เอ่ยถึงชีวิตและก็ความตายผ่านวัฒนธรรมประเทศญี่ปุ่นด้วยประสบการณ์ตรงของนักเขียนในสมัยที่ประเทศญี่ปุ่นโบราณกำลังจะสิ้นชีพไป แทนที่ใหม่ด้วยความล้ำยุคแล้วก็ความก้าวหน้า เป็นไปตามการหมุนไปยุคสมัยและก็โลกแบบนั้นเอง
〜武士道と云は死ぬ事と見付たり〜 วิถีแห่งซามุไรเพียงพบได้เมื่อชีวิตต้องสิ้นไป – Hagakure – บันทึกว่าด้วยซามุไรที่เก่าแก่และสมบูรณ์แบบที่สุด
Comments